ช็อกโกแลตเข้มข้นซึ่งมีรสหวานและทำให้คุณรู้สึกมีความสุขนั้นมีความเกี่ยวข้องกับวันวาเลนไทน์ในประเทศตะวันตกอยู่แล้ว และประเพณีที่มีต้นกำเนิดในยุโรปนี้ก็ได้แพร่หลายมาในญี่ปุ่นทำให้วัฒนธรรมวันวาเลนไทน์อันเป็นเอกลักษณ์ได้ถือกำเนิดขึ้น ที่ญี่ปุ่นในวันวาเลนไทน์ถือเป็นอีเวนต์ใหญ่ไม่เพียงแต่ในหมู่คู่รักเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในโรงเรียนและที่ทำงานด้วย ด้านล่างนี้เราจะอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับวัฒนธรรมวันวาเลนไทน์ที่ไม่เหมือนใครของญี่ปุ่นและของขวัญจากช็อกโกแลตในปัจจุบันที่ได้รับความนิยมในญี่ปุ่น

วันวาเลนไทน์ในญี่ปุ่นแตกต่างจากที่อื่นๆ ทั่วโลก!

ความเป็นมาของวันวาเลนไทน์

ก่อนที่จะแนะนำวัฒนธรรมวันวาเลนไทน์ของญี่ปุ่น เรามาทำความเข้าใจต้นกำเนิดของวันที่ 14 กุมภาพันธ์ซึ่งเป็นวันวาเลนไทน์ของทางตะวันตกกันก่อน ตำนานที่เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดจะเกี่ยวข้องกับนักบวชท่านหนึ่ง จักรพรรดิโรมันในศตวรรษที่ 3 สั่งให้ชายที่ยังไม่ได้แต่งงานเข้ารับราชการทหารและห้ามการแต่งงานเพื่อปรับปรุงกองทัพ แต่นักบวชที่ชื่อวาเลนไทน์กลับเพิกเฉยต่อคำสั่งนี้และแอบแต่งงานในฐานะคู่บ่าวสาว หลังความจริงปรากฏเขาก็ถูกประหารชีวิต และวันนั้นก็ตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์พอดี เล่ากันว่าวันนี้ได้ถูกกำหนดให้เป็น "วันวาเลนไทน์" เพื่อเป็นการรำลึกถึงจิตวิญญาณอันกล้าหาญของเขา

วันวาเลนไทน์ของตะวันตกถูกเผยแพร่ในญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และพัฒนากลายเป็นวัฒนธรรม กล่าวกันว่าในช่วงยุคปี 1950 ผู้ผลิตช็อกโกแลตในญี่ปุ่นได้ลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์เพื่อส่งเสริมการขาย และด้วยเหตุนี้เองธรรมเนียม "การให้ช็อกโกแลตในวันวาเลนไทน์'' จึงค่อยๆ ก่อตัวขึ้น

จุดเด่นสำคัญ 3 อย่างของวันวาเลนไทน์ในญี่ปุ่น

(1) ช็อกโกแลตคือตัวหลัก

ในต่างประเทศเป็นเรื่องปกติที่ผู้ชายจะแสดงความรู้สึกต่อผู้หญิงด้วยดอกไม้ เครื่องประดับ หรือของขวัญอื่นๆ แต่ในทางกลับกันที่ญี่ปุ่น ช็อกโกแลตถือเป็นของขวัญวันวาเลนไทน์ในเกือบทุกกรณี แต่ก็มีช็อกโกแลตหลายประเภท เช่น ช็อกโกแลตธรรมดา ช็อกโกแลตแบบหรูหรา และช็อกโกแลตทำมือ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างผู้ให้และผู้รับ

(2) เพื่อสารภาพรัก? หรือตามมารยาท? วิธีการเรียกช็อกโกแลตจะเปลี่ยนไปขึ้นอยู่กับผู้รับ

ช็อกโกแลตที่มอบให้กับคนที่คุณสนใจเรียกว่า "ฮงเมช็อกโกแลต'' และคนญี่ปุ่นจำนวนมากจะแสดงความรู้สึกโดยใช้ช็อกโกแลตทำมือหรือช็อกโกแลตจากแบรนด์ดังระดับสากล ช็อกโกแลตที่มอบให้กับเพื่อนร่วมงาน เพื่อนร่วมชั้น และเพื่อนๆ ทั่วไปเรียกว่า "กิริช็อกโกแลต'' ซึ่งหมายความว่าช็อกโกแลตเหล่านี้ขึ้นอยู่กับหน้าที่และความรู้สึก ส่วนช็อกโกแลตที่สื่อถึงมิตรภาพเรียกว่า "โทโมะช็อกโกแลต" นั่นไงล่ะ! คนญี่ปุ่นอาจจะให้ช็อกโกแลตหลายชิ้นกันในวันวาเลนไทน์ และถือเป็นอีเวนต์ที่ทำให้กระเป๋าสตางค์แบนเลยทีเดียว!

(3) ให้รางวัลตัวเองด้วยช็อกโกแลต

ร้านขนมหวานและช็อกโกแลตหลายแห่งต่างวางขายช็อกโกแลตที่มีเฉพาะวันวาเลนไทน์เท่านั้น ไม่เพียงแต่เหมาะเป็นของขวัญแต่บางครั้งคุณอาจอยากลองชิมดูเองด้วย! ด้วยเหตุนี้ เมื่อไม่นานมานี้ญี่ปุ่นจึงมีกระแสนิยมที่ใช้โอกาสวันวาเลนไทน์เพื่อซื้อช็อกโกแลตแบบหรูหราที่ปกติมักจะหาได้ยากเป็นรางวัลให้ตนเอง ช็อกโกแลตประเภทนี้ในญี่ปุ่นจะเรียกว่า "จิบุงช็อกโกแลต"

แนะนำร้านช็อกโกแลตชื่อดังที่อุเมดะในโอซาก้า

มาทานขนมหวานจากช็อกโกแลตที่อร่อยและสะดุดตากันเลย!

(1) YORKYS Crêperie / Piece of Bake

"YORKYS Crêperie" เป็นร้านเครปที่เปิดใน HANKYU SANBAN GAI ย่านอุเมดะซึ่งเป็นร้านเครปยอดนิยมในโกเบและขยายสาขาไปยังโอซาก้า ด้วยการดัดแปลงแป้งแพนเค้กให้เป็นเครปและใส่ใจเป็นพิเศษกับการควบคุมอุณหภูมิและการทำหลังจากได้รับคำสั่งซื้อ จึงทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับเนื้อสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์และรสชาติที่นุ่มนวลและมีกลิ่นหอมได้ รวมทั้งมีหลากหลายรสชาติให้เลือก และ "มีลเฟยสตรอว์เบอร์รี'' ก็ได้รับความนิยมเป็นพิเศษในหมู่ผู้หญิงญี่ปุ่น นอกจากนี้เรายังอยากแนะนำเครปช็อกโกแลตสดซึ่งในเครปจากแป้งโกโก้ที่จะให้กลิ่นเหล้ารัมเล็กน้อยจึงทำให้คุณเพลิดเพลินกับรสชาติในแบบผู้ใหญ่ได้

(2) Cafe Bahnhof

จุดที่น่าดึงดูดใจมากที่สุดของร้าน Cafe Bahnhof คือเมล็ดกาแฟที่มีให้เลือกมากมายและทุกเมล็ดทางร้านเป็นคนคั่วเอง และอีกหนึ่งจุดดึงดูดก็คือบาริสต้าจะเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติ Coffee Meister จากสมาคมกาแฟพิเศษแห่งประเทศญี่ปุ่น (SCAJ) และมีความเป็นมืออาชีพอย่างมากด้วยความรู้และเทคนิคต่างๆ เกี่ยวกับกาแฟ

ขนมหวานเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เมื่อคุณต้องการเพลิดเพลินกับกาแฟ และขนมหวานของร้าน Cafe Bahnhof ก็ได้รับการดูแลโดยเชฟขนมหวานชื่อดังของญี่ปุ่นอย่างคุณโอซามุ เอซากิ ขนมหวานจะใช้วัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่างดี และยังมีรูปลักษณ์และรสชาติที่ยอดเยี่ยม! ขนมหวานจากช็อกโกแลตที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือเค้กช็อกโกแลต ซึ่งมีการผสมผสานกันอย่างสมบูรณ์แบบของช็อกโกแลตเข้มข้นและแยมแอปริคอต จึงห้ามพลาดโดยเด็ดขาดสำหรับใครที่ชื่นชอบช็อกโกแลต

(3) CHOCOLATIER PALET D'OR

ใครชอบช็อกโกแลตห้ามพลาดร้าน "CHOCOLATIER PALET D'OR" เพราะร้านนี้เป็นร้านที่เปิดโดยคุณชุนสุเกะ ซาเอกุสะ นักทำช็อกโกแลตชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ ช็อกโกแลตสูตรออริจินัลของร้านจะผลิตจากเมล็ดโกโก้และผลิตในญี่ปุ่น รวมทั้งมีการตกแต่งด้วยทองคำเปลวจากคานาซาวะ และที่นี่ยังเต็มไปด้วยสีสันจากช็อกโกแลตและมีบรรยากาศในสไตล์ยุโรป

ตู้โชว์ของร้านเรียงรายไปด้วยช็อกโกแลตขนาดเล็กที่สวยงามหลากหลายชนิด และเรารับรองว่าคุณจะต้องใจสั่นตั้งแต่แรกเห็น รวมทั้งเหมาะมากที่จะซื้อเป็นของขวัญและสามารถเพลิดเพลินภายในร้านได้อีกด้วย คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับเค้กช็อกโกแลตสูตรพิเศษและเซ็ตเครื่องดื่ม หรือการผสมผสานที่คุณสามารถเลือกช็อกโกแลต 3 อย่างและเครื่องดื่มได้อย่างอิสระ

ซื้อของขวัญจากช็อกโกแลตที่แนะนำสำหรับซื้อให้ตัวเองหรือเป็นของขวัญกันเลย!

(1) Venchi

Venchi ที่มีต้นกำเนิดในอิตาลีและมีประวัติยาวนานกว่า 140 ปีแห่งนี้เป็นร้านขายช็อกโกแลตหรูหราที่มีชื่อเสียงในยุโรป ที่นี่มุ่งที่จะสร้างสมดุลระหว่างความอร่อยกับสุขภาพโดยใช้วัตถุดิบในสไตล์อิตาลี เช่น พิสตาชิโอและเฮเซลนัท และมีการควบคุมการใช้น้ำตาลอีกด้วย ร้านสาขาในโอซาก้าได้รับการออกแบบให้มีตู้โชว์กระจกใสเพื่อสร้างบรรยากาศที่สดใสและมีสไตล์ที่จะดึงดูดสายตาผู้คนที่ผ่านไปมา! เมื่อคุณมาที่นี่อย่าพลาดสินค้าซิกเนเจอร์ของทางร้านอย่าง CHOCOVIAR และชุดกล่องของขวัญ และหลังจากช็อปปิงเสร็จแล้ว อย่าลืมลองชิมเจลาโต้ของที่นี่ดู เพราะมีหลากหลายแบบคุณจึงสามารถเพลิดเพลินกับรสชาติที่แท้จริงได้

(2) Qu'il fait bon

Qu'il fait bon เป็นร้านทาร์ตผลไม้ที่ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมาก และตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 เป็นต้นมา ทางร้านก็ได้ขยายซีรีส์ตลับช็อกโกแลตหลากหลายรสชาติที่ทำจากอัลมอนด์ เฮเซลนัท และถั่วดำทั้งชิ้นที่ส่งกลิ่นหอมและถูกหุ้มด้วยช็อกโกแลต มีจุดเด่นคือมีขนาดเล็กพอดีคำ หวานและทานได้ไม่รู้เบื่อ บรรจุภัณฑ์แบบตลับทรงกลมนี้เหมาะมากสำหรับซื้อเป็นของขวัญ และซีรีส์นี้จะเป็นผลิตภัณฑ์ตามฤดูกาล ดังนั้นอย่าลืมรีบหาซื้อกันตั้งแต่เนิ่นๆ

(3) MOTHERHOUSE

มีช็อกโกแลตที่มีการไล่สีออกไปเหมือนภาพวาดสีน้ำจนไม่สามารถกินได้เพราะรู้สึกว่าน่าเสียดายหรือไม่ นั่นก็คือผลิตภัณฑ์ซิกเนเจอร์ของ "MOTHERHOUSE" แบรนด์จำหน่ายของใช้ทั่วไปในบ้านของญี่ปุ่น ทางแบรนด์ได้เพิ่มไวต์ช็อกโกแลตสูตรออริจินัลและวัตถุดิบจากธรรมชาติ เช่น ผลไม้ ชา และเกลือลงในโกโก้ที่คัดสรรจากฟาร์มในอินโดนีเซียจนเกิดเป็น "IRODORI" ช็อกโกแลตแบบไล่สีที่แสดงออกถึงสีสันและรสชาติของฤดูกาลทั้งสี่ของญี่ปุ่น และที่เราอยากแนะนำคือช็อกโกแลต "โซไก'' ที่จะมีรสเค็มและมีรสชาติของเซลจิงเกอร์กลิ่นหอมหวนที่มีขายเฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น และคุณจะต้องชื่นชอบอย่างแน่นอนตั้งแต่คำแรกที่ได้ชิม

*รายละเอียดของบทความนี้เป็นข้อมูลในช่วงวันที่ที่ระบุไว้ จึงอาจมีกรณีที่รายละเอียดของสินค้าและบริการ ฯลฯ เปลี่ยนแปลงไปหรือร้านค้าปิดทำการ