แม้โอซาก้าจะเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในแถบคันไซ แต่ก็ยังสามารถใช้ระบบขนส่งสาธารณะไปยังพื้นที่ธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ได้โดยใช้เวลาประมาณ 90 นาที
คราวนี้จะขอแนะนำรีสอร์ตบนภูเขา 2 แห่ง ได้แก่ ภูเขารกโกและเมียวเก็งโนะโมริ

หากใช้เส้นทางผ่านอุเมดะอันเป็นแหล่งช็อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในโอซาก้าแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องหอบอุปกรณ์ทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ใหญ่จนขนย้ายลำบากก่อนออกเดินทางจากประเทศ
เรามาจัดเตรียมชุดอุปกรณ์ให้พร้อมที่อุเมดะแล้วค่อยเดินทางเข้าสู่ธรรมชาติกันดีกว่า!

ร้านในอุเมดะที่ควรแวะก่อนเข้าสู่ธรรมชาติ!

Columbia/MOUNTAIN HARDWEAR

เป็นร้านอุปกรณ์ทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ย้ายสถานที่และปรับแต่งร้านใหม่เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2020 ครบครันไปด้วยชุดเสื้อผ้า รองเท้า และอุปกรณ์ที่เหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ เช่น การตั้งแคมป์ การตกปลา เทรคกิ้ง ปีนเขา และกีฬาฤดูหนาว
สาขา GRAND FRONT OSAKA เป็นร้านรวมหลายแบรนด์เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายโดยจะจำหน่าย Columbia, MOUNTAIN HARDWEAR, SOREL, Columbia montrail

Marmot

Marmot เป็นแบรนด์ที่จะช่วยให้การทำกิจกรรมกลางแจ้งมีความสะดวกสบาย เช่น การใช้ "Gore-Tex®" ครั้งแรกในวงการกิจกรรมกลางแจ้ง และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วโลกในฐานะเป็นแบรนด์สไตล์ปีนเขาที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนในระดับโลก

GATE2 FIELDER’S CHOICE

เติมสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพเพื่อเตรียมให้พร้อมสำหรับ 1 วันที่จะทำกิจกรรมท่ามกลางธรรมชาติกันดีไหม
ที่ GATE2 คุณจะได้เพลิดเพลินกับสลัดที่ใช้ผักสดในปริมาณจุใจซึ่งสั่งซื้อมาจากตลาดทุกวัน นอกจากชามสลัดทั่วไปแล้ว ยังมีเมนูสลัดเลือกเองโดยจะให้เลือกส่วนประกอบที่ชื่นชอบ ทั้งยังสามารถเพิ่มข้าวผสมธัญพืช 16 ชนิดหรือแซนด์วิชที่ห่อด้วยแป้งตอติญ่า แถมยังมีเมนูสำหรับมังสวิรัติด้วย
สลัดจะทำตรงหน้าของลูกค้าหลังจากสั่งอาหาร สามารถจองได้สำหรับคนที่รีบหรือสั่งเยอะ ดังนั้นอย่าลืมมาใช้บริการกันให้ได้
นอกจากจะซื้อกลับบ้านได้แล้ว ยังสามารถทานตรงเคาน์เตอร์ภายในร้านหรือที่นั่งตรงระเบียงร้านได้อีกด้วย

ภูเขารกโก

ภูเขารกโกเป็นเทือกเขาที่ทอดยาวจากทิศตะวันตกไปทิศเหนือในย่านเมืองของอำเภอโกเบ และได้รับเลือกให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ที่นี่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้หรือดอกไม้ป่าในแต่ละฤดูกาล นกและสัตว์ต่างๆ ที่อาศัยอยู่
ภูเขารกโกได้รับการพัฒนาให้เป็นแหล่งสันทนาการมาตั้งแต่สมัยเมจิ แม้แต่ในปัจจุบันก็เป็นรีสอร์ตบนเขาที่เป็นที่ชื่นชอบและทุกคนในย่านคันไซต่างรู้จัก เนื่องจากได้รับการพัฒนาโดยชาวตะวันตกที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น จึงมีความผสมผสานระหว่างสไตล์การพักผ่อนแบบตะวันตกซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในญี่ปุ่นกับธรรมชาติของญี่ปุ่น
บริเวณยอดเขามีจุดชมวิวเตรียมไว้หลายแห่ง จึงสามารถชมวิวอาคารบ้านเรือนในฮันชินคังและทะเลในเซโตะได้

การเดินทางจากอุเมดะ โอซาก้า ให้มุ่งหน้าไปสถานีรกโกของสายฮันชิน สถานี JR รกโกมิจิ หรือสถานีมิคาเกะของสายฮันชินโดยรถไฟ แล้วใช้ระบบขนส่งสาธารณะมุ่งหน้าไป "สถานีรกโกเคเบิลชิตะ"

รกโกเคเบิล

ขึ้นภูเขาโดยการเคลื่อนผ่านท่ามกลางต้นไม้สีเขียวด้วยกระเช้าลอยฟ้าที่ย้อนยุคและคลาสสิก ในฤดูใบไม้ร่วงจะมีใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ ให้ได้เพลิดเพลินกันด้วย ทั้งยังจะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับจังหวะที่กระเช้าขึ้นเขากับลงเขาสวนกัน
อย่าลืมจับตามองสถานียอดเขารกโกที่ยังคงสภาพเดิมตั้งแต่ตอนเปิดกิจการเมื่อปี 1932 และเครื่องแบบน่ารักๆ ของพนักงานตรวจตั๋วกันนะ!

พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีรกโก

เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรักษากล่องดนตรีล้ำค่าต่างๆ โดยอันที่เก่าที่สุดจะเป็นกล่องดนตรีที่ผลิตในยุคปี 1830
มีคอนเสิร์ตจัดประจำซึ่งจะไม่ใช่แค่การบรรเลงเพลงเท่านั้น แต่ยังจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และระบบของกล่องดนตรีอย่างสนุกสนานอีกด้วย รวมถึงยังจะได้เพลิดเพลินกับคอนเสิร์ตพิเศษที่จะแสดงเรื่องราวผ่านทางการบรรเลงกล่องดนตรี
พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีรกโกมีสตูดิโอประดิษฐ์กล่องดนตรีซึ่งใช้การค้นคว้าวิจัยและเทคโนโลยีแบบเฉพาะของพิพิธภัณฑ์ คุณจึงสามารถสัมผัสกับประสบการณ์การประกอบกล่องดนตรีได้ที่นี่
พนักงานผู้เชี่ยวชาญจะคอยช่วยเหลือและอธิบายอย่างละเอียด ฉะนั้นแม้แต่มือใหม่ก็วางใจได้แน่นอน เสียงของกล่องดนตรีที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ด้วยมือของตนเองจะเป็นประสบการณ์ที่จะคงอยู่ในความทรงจำ

แนะนำให้ทานอาหารหรือพักผ่อนที่ STRAUSS Cafe ซึ่งจะมีเมนูสไตล์เวียนนาให้ได้เพลิดเพลินกัน คุณจะได้ผ่อนคลายเต็มที่กับต้นไม้สีเขียวจากภายในอาคารที่มีหน้าต่างบานใหญ่ เราขอแนะนำที่นั่งระเบียงตรงสวนกลางที่จะได้เต็มอิ่มกับธรรมชาติของภูเขารกโกในฤดูกาลที่อากาศดี
เมนูที่ได้รับความนิยมคือเซ็ตขนมเค้ก เชิญมาเพลิดเพลินสบายๆ พร้อมกับเครื่องดื่มที่โปรดปรานได้เลย เมนูแฮมเบิร์กและแกงกะหรี่ ฯลฯ ก็เป็นแบบมาตรฐานโดยฝีมือของเชฟ

Rokkosan Country House

เป็นบริเวณกลางสนามหญ้าขนาดใหญ่ซึ่งมีไว้เพื่อให้ขยับร่างกายได้อย่างเต็มที่ ครบครันไปด้วยเครื่องเล่นที่สนุกกันได้ทั้งครอบครัว เช่น แทรมโพลีน กระดานลื่น เรือถีบในสระ หรือเครื่องเล่นปีนป่ายแบบมาตรฐาน คุณสามารถใช้งานได้หลากหลาย อย่างเช่น การฝึกเพื่อสร้างทีมสัมพันธ์สำหรับผู้ใหญ่
Alpenrose และร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกันยังมีเมนูฮาลาลเตรียมเอาไว้พร้อมด้วย ซึ่งหากแจ้งความจำนงจะสามารถใช้ห้องสวดมนต์ได้
ในฤดูหนาวจะกลายเป็นลานหิมะภูเขารกโกให้ได้สนุกสนานกับสกีและสโนว์บอร์ด มีบริการสอนเล่นสกีด้วยภาษาอังกฤษ ผู้ที่ประสงค์กรุณาติดต่อสอบถามล่วงหน้า

Rokkosan Genghis Khan Palace

เป็นร้านอาหารเจงกิสข่านที่ปรับปรุงใหม่ในฤดูใบไม้ผลิปี 2020 นอกจากบาร์บีคิว ยังมีเนื้อแกะที่เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ และเนื้อวัวโกเบที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก อีกทั้งยังมีอาหารทะเลมากมายให้ย่างบนแผ่นเหล็กร้อนกันอย่างสนุกสนานครื้นเครง จากเก้าอี้ที่จัดเรียงเป็นรูปวงกลมจะมองเห็นอาคารบ้านเมืองของโกเบกับโอซาก้า และทะเลในเซโตะ ตอนกลางคืนก็จะมีวิวยามค่ำคืนให้ได้เต็มอิ่มกันด้วย

จุดชมวิวสัมผัสธรรมชาติ รกโกชิดาเระ

ออกแบบโดยฮิโรชิ ซังบุอิจิ สถาปนิกชื่อดังระดับโลกภายใต้ธีมที่สอดคล้องกันว่าสถาปัตยกรรมกลายเป็นส่วนหนึ่งของโลกได้อย่างไร ชมวิวพาโนรามาขนาดใหญ่ตั้งแต่ช่องแคบอาคาชิไปจนถึงที่ราบโอซาก้าและสนามบินนานาชาติคันไซผ่านโครงที่ทำโดยใช้ไม้ฮิโนกิที่คัดสรรมาอย่างดีจากป่าโยชิโนะ จังหวัดนาระ ตอนกลางคืนจะมองเห็นวิวสิบล้านดอลลาร์ยามค่ำคืน
ไฮไลต์อยู่ตรงแสงแดดลอดผ่านแมกไม้ที่รังสรรค์ขึ้นโดยทำให้โครงเป็นเหมือนกิ่งไม้ใบไม้ของจริง
ตัวจุดชมวิวก็สร้างจากไม้ฮิโนกิ ทั้งยังใช้สแต็กเอฟเฟกต์และความร้อนกลายเป็นไอจากน้ำแข็งธรรมชาติโดยไม่มีการใช้เครื่องปรับอากาศ เพื่อรักษาอุณหภูมิภายในอาคารให้คงที่ตลอดทั้งปี เสน่ห์ที่ต่างกับจุดชมวิวอื่นคือท้องฟ้าที่แหงนหน้ามองจากด้านในของจุดชมวิว จะทำให้คุณรู้สึกราวกับมีธรรมชาติห้อมล้อม
ตอนกลางคืนจะประดับไฟ LED เพื่อทำให้ฤดูกาลทั้งสี่ของภูเขารกโกมีความมหัศจรรย์ คุณจึงจะได้เพลิดเพลินกับความงามที่แตกต่างจากช่วงกลางวันไปพร้อมกับวิวกลางคืน

ศิลปะแสงแห่งภูเขารกโก "Lightscape in Rokko"

ศิลปะแสงแห่งภูเขารกโก "Lightscape in Rokko" เป็นอีเวนต์แสงที่ใช้แสงไฟ LED ใหม่ล่าสุดซึ่งสามารถแสดงสีออกมาได้มากกว่า 10 ล้านสี แล้วส่องแสงมาจากด้านในของโครงที่ปกคลุมทั่วจุดชมวิวด้วยแสงไฟที่ใกล้เคียงกับแสงธรรมชาติมากที่สุด
เชิญให้คุณมาเพลิดเพลินกับวิวแสงไฟน่ามหัศจรรย์ไปพร้อมกับวิวสิบล้านดอลลาร์ยามค่ำคืนที่มองเห็นจากภูเขารกโก

เมียวเก็งโนะโมริ

เมียวเก็งโนะโมริมีความเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยเอโดะ เพราะมีผู้ไปสักการะโนเซะเมียวเก็งซังอันเป็นวัดบนยอดเขา จึงมีการเปิดกระเช้าลอยฟ้าในปี 1925 เพื่อทำให้ขึ้นยอดเขาได้ง่ายๆ
พื้นที่แห่งนี้มีชื่อเสียงว่าเป็นแหล่งผลิตถ่านคุณภาพดีมาตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว เนื่องจากใช้ตามพื้นที่เพาะปลูกเป็นอันดับแรกของญี่ปุ่นซึ่งใกล้ชิดกับความเป็นอยู่ของผู้คน (เชื้อเพลิงที่มนุษย์ใช้ในชีวิตประจำวัน (ถ่านหรือฟืน)) จึงรู้จักกันทั่วไปว่าเป็นภูเขาที่ถูกตัดและใช้งานอยู่เป็นประจำ
การเดินทางจากอุเมดะ โอซาก้าให้มุ่งหน้าจากสถานีฮันชินโอซาก้าอุเมดะ ไปยังสถานีคาวานิชิโนเซกุจิ แล้วโดยสารรถไฟโนเซะสาย "ปลายทางเมียวเก็งคุจิ"
หรือกรณีที่จะโดยสารสาย "ปลายทางนิซเซจูโอ" ก็ให้เปลี่ยนเป็นสาย "ปลายทางไปเมียวเก็งคุจิ" ที่ "สถานียามาชิตะ"
โดยสารรถบัสจาก "สถานีเมียวเก็งคุจิ" ไปทางรถกระเช้าไฟฟ้าเมียวเก็งโนะโมริ "สถานีคุโรคาวะ"

รถกระเช้าไฟฟ้า

รถกระเช้าไฟฟ้ายาว 223 เมตรและใช้เวลา 5 นาที พอเงยหน้าขึ้นมองสายเคเบิลมาจากด้านล่างก็จะเห็นความลาดชันอันเป็นไฮไลต์หลักของที่นี่
ฤดูใบไม้ผลิจะมี "ซากุระ" ฤดูร้อนจะมี "ใบไม้เขียวชอุ่ม" และฤดูใบไม้ร่วงจะมี "ใบไม้เปลี่ยนสี" คุณจึงจะได้เต็มอิ่มกับความยอดเยี่ยมของธรรมชาติที่มีเสน่ห์แตกต่างกันไปทั้งสี่ฤดูกาล

สถานีฮกเคียวคุเซอิริกุจิ (ผลงานศิลปะ)

"ฮกเคียวคุเซ" มีไว้เพื่อบูชาวัดบนยอดเขาอย่างโนเซะเมียวเก็งซัง ศิลปินสร้างผลงานชื่อทาคาฮิโระ ซุซุกิกับการรถไฟโนเซะได้สร้างสถานีไปฮกเคียวคุเซตามชื่อนั้น
แม้จะไม่รู้เลยว่าขบวนถัดไปจะมาเมื่อไร แต่สถานีนี้ยังมีทิวทัศน์ธรรมชาติซึ่งจะคงอยู่ตรงนี้ตลอดไป เป็นจุดที่ทำให้ถ่ายภาพอันเป็นเอกลักษณ์ได้ เช่น ภาพถ่ายบนรางรถไฟซึ่งไม่สามารถถ่ายได้ง่ายๆ

รถไฟซิกนาสชินริน

รถไฟเล็กแบบมาตรฐานที่สร้างด้วยมือของพนักงานการรถไฟโนเซะ คนขับรถไฟจะนั่งขับในห้องควบคุม ไม่ควรพลาดชมห้องควบคุมที่ประณีตจนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นรถไฟของจริง เป็นยานพาหนะยอดนิยมสำหรับเด็กๆ แต่ผู้ใหญ่ก็สามารถโดยสารได้
อย่าลืมสัมผัสประสบการณ์รถไฟคันเล็กที่จะวิ่งตัดผ่านธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์กันให้ได้

ลิฟต์เมียวเก็งโนะโมริ

วันที่อากาศแจ่มใสจะมองเห็นได้จนถึงอ่าวโอซาก้าที่อยู่ไกลๆ ฤดูใบไม้ผลิจะมีซากุระ ฤดูร้อนจะมีดอกไฮเดรนเยีย ฤดูใบไม้ร่วงจะมีดอกคอสมอสบานสะพรั่งสวยงาม เชิญมาเดินเล่นบนท้องฟ้าประมาณ 12 นาทีกันได้เลย

โนเซะเมียวเก็งซัง (ศาลเจ้าหลัก)

เป็นวัดที่มีประวัติยาวนานซึ่งไม่น่าเชื่อว่าการศรัทธาฮกเคียวคุเซแห่งเมียวเก็งซังจะมีมาตั้งแต่ปี 750
มีผู้คนมาสักการะมากมายตั้งแต่สมัยเอโดะและได้รับความศรัทธาแรงกล้า ภายในบริเวณศาลเจ้ายังคงหลงเหลืออาคารแบบสมัยเอโดะอยู่
มีรูปปั้นม้า 8 ตัวเป็นจุดน่าชมของเมียวเก็งซัง
กล่าวกันว่ามีดาวกระบวยตักน้ำใหญ่และดาวอัลคอร์ 8 ดวงเป็นดาวปกปักรักษาฮกเคียวคุเซ และว่ากันว่าการถวายม้าให้กับเทพเจ้าจะได้รับบุญกุศลมหาศาล จึงมีประเพณีถวายม้าเพื่อทำให้คำอธิษฐานเป็นจริง ด้วยเหตุนั้นก็เลยมีม้าพิทักษ์เมียวเก็งซังอยู่ 8 ตัว ยากเล็กน้อยที่จะหาม้าได้ครบทั้ง 8 ตัว แต่อย่าพลาดลองท้าทายกันให้ได้!
พอมองมาจากด้านบนก็จะเห็นหอประชุมสาวก "เซเร" ซึ่งทำเลียนแบบโลโก้ของเมียวเก็งซัง แล้วอ่าวโอซาก้าที่มองลงมาจากยอดเขาก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน
หากจองล่วงหน้าก็จะสามารถสัมผัสประสบการณ์การนั่งเขียนบทสวดมนต์และการวาดภาพพระพุทธเจ้าได้
*จะมีรองรับเป็นภาษาญี่ปุ่น

ลานบาร์บีคิวเมียวเก็งโนะโมริ

เป็นบาร์บีคิวที่สามารถเพลิดเพลินกับเนื้อวัวญี่ปุ่นอร่อยๆ ได้ในราคาสมเหตุสมผล ที่นี่เตรียมวัตถุดิบอาหารและอุปกรณ์เอาไว้ครบครัน ฉะนั้นมามือเปล่าได้เลย บาร์บีคิวจะใช้ถ่านของย่านนี้จึงได้รับเสียงชื่นชมเรื่องการติดไฟนาน หรือจะเอาวัตถุดิบอาหารมาเองก็ได้
มีระเบียงติดหลังคาแสนสบายเอาไว้เพียบพร้อมด้วย ทั้งยังมีการเตรียมเครื่องดื่มอย่างเบียร์กับซอฟต์ดริงก์เอาไว้
บาร์บีคิวที่สนุกสนานกับครอบครัวหรือเพื่อนฝูงท่ามกลางแดดส่องลอดแมกไม้จะกลายเป็นเวลาที่สามารถผ่านคลายได้สูงสุด

กิจกรรมกีฬา

ภายในลานบาร์บีคิวก็มีกีฬาให้เด็กสามารถสนุกสนานกันได้ แนะนำให้ไปพักผ่อนตรงดาดฟ้าชมวิวเพื่อเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันสวยงามระหว่างว่างจากทานบาร์บีคิว
วันที่อากาศแจ่มใสจะมองได้เห็นจนถึงอ่าวโอซาก้าเลย!
ดูข้อมูลรายละเอียดได้ที่นี่
https://noseden.hankyu.co.jp/chottabi/en/

ที่พักแนะนำ

*รายละเอียดของบทความนี้เป็นข้อมูลในช่วงวันที่ที่ระบุไว้ จึงอาจมีกรณีที่รายละเอียดของสินค้าและบริการ ฯลฯ เปลี่ยนแปลงไปหรือร้านค้าปิดทำการ