วิธีค้นหาร้านราเม็งที่ดีที่สุดในโอซาก้า

2022.02.28

โอซาก้าได้รับการเรียกขานว่า "ครัวของโลก" จึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีร้านราเม็งถึง 1,000 ร้านขึ้นไปเปิดแข่งขันกันที่นี่

นอกจากร้านราเม็งมากมายแล้ว โอซาก้ายังเป็นแหล่งกำเนิดของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอีกด้วย โมโมฟูกุ อันโดซึ่งเป็นผู้พัฒนาได้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสไก่ที่โรงงานเล็กๆ ในบ้านที่อำเภออิเคดะ ปัจจุบันโรงงานดังกล่าวก็ได้ถูกสร้างจำลองขึ้นที่พิพิธภัณฑ์คัพนู้ดเดิ้ล (CUPNOODLES MUSEUM) ในอำเภออิเคดะ

ปัจจุบันมีร้านราเม็งหลากหลายแบบในโอซาก้าที่เป็นตัวแทนของราเม็งท้องถิ่นทั่วประเทศญี่ปุ่นซึ่งเหมาะกับทุกความชอบหรือการรับรสไม่ว่าแบบใดก็ตาม โดยมีตั้งแต่ทงคตสึราเม็ง (ซุปกระดูกหมู) เข้มข้นไปจนถึงราเม็งแกงกะหรี่ที่ใส่เครื่องเทศ หรือร้านที่เงียบสงบและมีชื่อเสียงไปจนถึงร้านอาหารที่ตกแต่งมีสไตล์ โอซาก้าจึงเป็นสถานที่ที่เหมาะที่สุดในการเริ่มต้นการผจญภัยเพื่อกินจนอิ่มหนำในธีมราเม็งของคุณ!

ชนิดของราเม็งมีแบบไหนกันบ้าง?

เส้นราเม็งทำจากแป้งสาลี น้ำ เกลือ และน้ำอัลคาไลน์ (น้ำด่าง) ที่เรียกว่าคันซุย (นี่จะทำให้เส้นมีความยืดหยุ่นและมีสีเหลือง) ซึ่งเส้นราเม็งจะมีขนาดและรูปร่างหลากหลายไป แต่ราเม็งจะถูกแบ่งหมวดหมู่ตามน้ำซุปที่ใช้ และราเม็งสุดฮิตในจำนวนนั้นก็อยู่ที่นี่แล้ว!

โชยุราเม็ง : เป็นซุปที่ใช้โชยุ (ซีอิ๊วญี่ปุ่น) สีน้ำตาลใส และให้รสชาติอ่อนๆ ที่ได้จากไก่และผัก วัตถุดิบหลักและท็อปปิ้งสำหรับโชยุราเม็ง ได้แก่ หมูสามชั้นตุ๋น คามาโบโกะ (ลูกชิ้นปลา) ไข่ต้ม และหน่อไม้ดอง รวมไปถึงเครื่องเทศของญี่ปุ่น เช่น พริกแห้ง สาหร่าย และงา

มิโซะราเม็ง : ราเม็งชนิดนี้ถือกำเนิดในฮอกไกโด และใช้มิโซะ (เต้าเจี้ยวญี่ปุ่น) ไก่ และปลาสำหรับทำน้ำซุปดาชิ มิโซะราเม็งเป็นซุปที่เข้มข้นและนุ่มเหมือนครีม จึงเป็นอาหารที่เหมาะมากในการช่วยให้ร่างกายอบอุ่นในฤดูหนาว ส่วนท็อปปิ้งสำหรับมิโซะราเม็งในฮอกไกโด ได้แก่ ซอสพริก ข้าวโพด หอมใหญ่ และถั่วงอก

ชิโอะราเม็ง : เป็นซุปเกลือที่ใช้ไก่ ผัก ปลา และสาหร่ายคมบุในการทำน้ำซุปดาชิ ซุปนี้จะมีรสอ่อนมากและใส ส่วนเส้นนี้จะใช้เส้นบางและตรง และที่ขึ้นชื่อก็คือ ฮาโกดาเตะราเม็งที่มีการใส่หมูชาชู หอมใหญ่ และหน่อไม้ดอง

ทงคตสึราเม็ง : ราเม็งนี้ทำจากน้ำซุปดาชิที่ได้จากกระดูกหมูและเป็นหนึ่งในราเม็งที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ทงคตสึราเม็งมีต้นกำเนิดที่ฟุกุโอกะในคิวชู และเรียกยังเรียกกันในชื่อว่า ฮากาตะราเม็งด้วยเช่นกัน ซุปนี้มีความพิเศษตรงที่ใช้เวลาในการเตรียมเพื่อเคี่ยวราว 8 - 18 ชั่วโมงจึงจะได้เป็นรสอุมามิที่แสนเข้มข้น และน้ำซุปยังมีลักษณะขุ่น

สึเคเม็ง

สึเคะเม็ง เป็นราเม็งญี่ปุ่นชนิดหนึ่ง แต่เส้นและซุปจะเสิร์ฟแยกกัน โดยซุปส่วนใหญ่จะใช้ซุปดาชิที่ได้จากหมูและผัก ส่วนเส้นจะเสิร์ฟแบบเย็นและจุ่มลงในซุปเพื่อทาน ความแตกต่างอย่างมากระหว่างราเม็งกับสึเคเม็งก็คือ เส้นของสึเคเม็งจะเสิร์ฟหลังจากเดือดและเย็นลงแล้ว

ราเม็งอื่นๆ

นอกจากราเม็งหลักๆ ทั้ง 4 ชนิดนี้แล้ว คุณอาจได้พบกับราเม็งแกงกะหรี่ (คาเรราเม็ง) ที่ใช้ซุปแกงกะหรี่ และทันทันเม็ง (ราเมงรสเผ็ด) (ดัดแปลงทันทันเม็งของจีนมาเป็นในสไตล์ญี่ปุ่น) ในโอซาก้าก็เป็นได้

วิธีการสั่งราเม็ง

ร้านราเม็งมีอยู่เกือบทุกเมืองเพราะราเม็งเป็นที่นิยมและราคาถูก รวมทั้งเป็นอาหารที่แพร่หลายและคุ้นเคยกันดี ร้านราเม็งหลายแห่งได้ใช้ระบบการสั่งซื้อและชำระเงินโดยใช้เครื่องจำหน่ายตั๋วอาหาร โดยคุณจะต้องกดปุ่มเลือกชนิดราเม็งที่อยากกินก่อนจ่ายเงิน และเมื่อจ่ายเงินแล้ว คุณจะได้ตั๋วอาหาร จากนั้นให้ยื่นตั๋วอาหารให้กับพนักงานด้านในร้าน พนักงานคนนั้นก็จะพาคุณไปยังที่นั่งและรับคำสั่งซื้อของคุณ

เคล็ดลับเกี่ยวกับวิธีกินราเม็ง

เมื่อคุณไปที่ร้านราเม็งในญี่ปุ่น คุณจะได้รับตะเกียบสำหรับกินเส้นราเม็งและช้อนกระเบื้องสำหรับกินซุป แต่คุณยังสามารถดื่มจากชามได้โดยตรงอีกด้วย ซึ่งจุดที่สำคัญที่สุดในการกินราเม็งคือความเร็ว ถ้าคุณใช้เวลามากเกินไป เส้นราเม็งจะขยายและนิ่มขึ้น คิดว่าใครที่มาญี่ปุ่นน่าจะรู้กันดีอยู่แล้ว ที่นี่จะซูดเส้นราเม็งจนเกิดเสียง ซึ่งนี่จะช่วยให้คุณกินได้อย่างรวดเร็วและยังดึงรสชาติของเส้นราเม็งให้มากขึ้นอีกด้วย

วิธีหาร้านราเม็งแสนอร่อยในโอซาก้า

ตอนนี้คุณรู้ชนิดของราเม็ง วิธีสั่ง และวิธีทานแล้ว จากนี้เรามาติดตามวิธีการหาร้านราเม็งอร่อยๆ กับต้องมีอะไรถึงจะเป็น “ราเม็งที่ดี”? กันเลย

ฉันคิดว่าราเม็งที่ดีต้องมีรสชาติที่เข้มข้นของซุปดาชิ และให้รสชาติของเนื้อและผักที่ไม่เลี่ยนแต่เข้มข้น เส้นราเม็งต้องนุ่มแต่ก็เคี้ยวหนึบ และท็อปปิ้งไม่ควรไปรบกวนรสชาติของน้ำซุป ราเม็งที่ดีจะไม่ทำให้คุณท้องอืดได้ง่ายแม้ว่าจะกินจนอิ่มแล้วก็ตาม

มีร้านราเม็งหลายแบบในโอซาก้า มีบางคนที่อยากไปร้านสไตล์เก่าแก่ที่มีธรรมเนียมและประวัติอันยาวนาน ในขณะที่บางคนก็อยากไปร้านราเม็งที่ดูทันสมัย ​​หรูหรา และมีสไตล์มากขึ้น

วิธีหนึ่งที่จะค้นหาร้านราเม็งที่ดีก็คือ การต่อแถวยาวอยู่หน้าร้าน ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วนี่จะถือเป็นหลักฐานของร้านที่อร่อย และเพราะมีคิวยาว แต่คุณไม่ต้องกลัวว่าจะใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะได้เข้าร้าน ราเม็งถือเป็นอาหารจานด่วนในญี่ปุ่น ลูกค้าจึงจะกลับทันทีที่กินราเม็งเสร็จแล้ว ดังนั้นคิวที่รออยู่จะเคลื่อนไปเร็วเช่นกัน

คำแนะนำอีกอย่างคือการถามผู้คนในท้องถิ่น ทุกคนยินดีที่จะแบ่งปันสิ่งที่พวกเขารู้เกี่ยวกับเมืองและความชื่นชอบในอาหารของพวกเขา หรือให้คุณลองมองเข้าไปข้างในร้านตอนที่เดินผ่านหน้าร้านราเม็ง ถ้ากินจนน้ำซุปหมด ฉันคิดว่านี่ก็เป็นหลักฐานว่าเป็นร้านราเม็งที่ดีด้วยเช่นกัน!

การรู้เมนูซิกเนเจอร์ของร้านราเม็งก็สามารถช่วยให้คุณสั่งราเม็งแสนอร่อยได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น ถ้าซิกเนเจอร์ของร้านนั้นๆ คือทงคตสึราเม็ง ก็ขอให้คุณลองสั่งเมนูนั้น หรือถ้าคุณไม่รู้เมนูซิกเนเจอร์ของร้าน คุณก็สามารถถามถึง "โอซึซึเมะ" (ในภาษาญี่ปุ่นหมายถึงการแนะนำ) จากพนักงานร้านได้อีกด้วย

5 ร้านราเม็งชื่อดังที่ต้องไปให้ได้ในโอซาก้า!

ถ้าคุณไปเยือนโอซาก้าและกำลังมองหาสถานที่ที่กินราเม็งได้ อย่าพลาดลองแวะไปที่ 5 ร้านราเม็งในย่านอุเมดะแห่งนี้กันให้ได้!

1. Tamagoro

ร้านนี้เป็นร้านราเม็งสาขาที่มีประวัติยาวนานในโอซาก้า และมีจุดเด่นคือนิโบชิราเม็ง (ซุปปลาซาร์ดีนตากแห้งและกระดูกหมู) ซุปที่อร่อยและไม่เหมือนใครของที่นี่จะใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมงในการเคี่ยวกระดูกหมูและปลาซาร์ดีนตากแห้ง และเป็นซุปทะเลที่เข้มข้นโดยมีการใช้อาหารทะเลมากมาย เช่น ปลาอิวาชิ และปลาคัตสึโอะ เราจึงขอชวนคุณมาอิ่มอร่อยกับเส้นราเม็งหนาหยัก ไปพร้อมๆ กับเมนูข้างเคียงอย่างซุยเกี๊ยวซ่า (เกี๊ยวซ่าต้ม) สไตล์โฮมเมดของที่นี่

ร้าน : Tamagoro
ห้างสรรพสินค้า : HANKYU SANBAN GAI
ที่ตั้ง : ชั้น 1 (อาคารทิศใต้)
เวลาทำการ : 10.00 - 23.00 น. (รับออเดอร์สุดท้ายเวลา 22.30 น.)

2. Ramen Yokozuna

ที่นี่เป็นร้านสาขาที่ถือเป็นร้านที่เชี่ยวชาญด้านราเม็งและมีประวัติยาวนานมากกว่า 40 ปี และในร้านนี้คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับการบริการที่เป็นมิตรและเป็นกันเอง และราเม็งกระดูกหมูภายในร้านที่ตกแต่งอย่างทันสมัย ​​นอกเหนือจากโชยุราเม็งกระดูกหมูที่สามารถกินได้ในราคาประมาณ 700 - 1,000 เยน คุณยังสามารถกินเกี๊ยวซ่าและข้าวผัด ฯลฯ ที่เป็นเมนูแบบเป็นเซ็ตได้ในราคาเพียง 800 - 1,100 เยนในช่วงตั้งแต่เวลา 11.00 - 17.00 น.

ร้าน : Ramen Yokozuna
ห้างสรรพสินค้า : HANKYU SANBAN GAI
ที่ตั้ง : ชั้น B2 (อาคารทิศใต้)
เวลาทำการ : 10.00 - 22.30 น.

3. Ramen Gyoku

ราเม็งของที่นี่เป็นซุปโชยุเข้มข้นจากซุปดาชิที่ทำขึ้นจากการผสมผสานกันของอาหารทะเล กระดูกหมู กระดูกไก่ และผัก และมีเส้นที่เหนียวนุ่มเป็นแบบโฮมเมดและใช้แป้งสาลีที่ผลิตจากฮอกไกโด และราเม็งของที่นี่ยังมีราคาประมาณ 800 - 1,000 เยน ส่วนสึเคเม็งและเมนูอื่นๆ จะมีราคาประมาณ 880 - 1,100 เยน

ร้าน : Ramen Gyoku
ห้างสรรพสินค้า : HANKYU SANBAN GAI
ที่ตั้ง : ชั้น B2 (อาคารทิศเหนือ)
เวลาทำการ : 11.00 - 23.00 น. (รับออเดอร์อาหารจนถึงเวลา 10.30 น., เครื่องดื่ม 10.45 น.)

4. Tsukemen TETSU

Tsukemen TETSU เป็นร้านสาขาที่มีการขยายสาขาโดยเน้นในแถบคันโตเป็นหลักและเชี่ยวชาญในสึเคเม็งที่จะเสิร์ฟโดยการแยกเส้นกับน้ำซุป และสาขานี้ก็เป็นร้านแรกในภูมิภาคคันโต น้ำซุปนุ่มเหมือนครีมของที่นี่จะมีการใช้ซุปดาชิที่ได้จากกระดูกหมู ปลาซาร์ดีนตากแห้ง ปลาคัตสึโอะแห้ง และปลาแมคเคอเรลแห้ง และนอกจากสึเคเม็งที่เป็นเมนูเด่นและได้รับความนิยมมากที่สุดแล้ว ที่นี่ก็ยังมีทันทันสึเคเม็งซึ่งเป็นเมนูที่มีเฉพาะที่ HANKYU SANBAN GAI อีกด้วย

ถ้าคุณอยากเพลิดเพลินกับสึเคเม็ง เราขอแนะนำให้ใช้ตะเกียบคีบเส้นขนาดพอดีหนึ่งคำแล้วจุ่มลงไปประมาณ 2 ใน 3 ส่วนของน้ำซุป และในกรณีที่ต้องเสียเวลามากกว่าที่คิดเพื่อที่จะกินเส้นให้รวดเร็ว ที่ร้าน Tsukemen TETSU จะมีหินร้อนที่ไม่เหมือนใครให้คุณค่อยๆ ใส่ลงในซุปที่เย็น จากนั้นคุณก็จะสามารถกินน้ำซุปร้อนๆ ได้อีกครั้ง

ร้าน : Tsukemen TETSU
ห้างสรรพสินค้า : HANKYU SANBAN GAI
ที่ตั้ง : ชั้น B2 (อาคารทิศใต้)
เวลาทำการ : 11.00 - 22.30 น. (รับออเดอร์สุดท้ายเวลา 22:00 น.)

5. Ramen Xone

ร้านราเม็งที่สว่างและทันสมัยนี้ตั้งอยู่ใน HEP ​​FIVE และมีบรรยากาศเหมือนคาเฟ่ด้วยสีแดงและสีขาวสดใส จุดเด่นของร้าน Ramen Xone คือน้ำซุปดาชิกระดูกหมูที่นุ่มเหมือนครีมและอุดมไปด้วยคอลลาเจนที่ดีต่อผิวสวยด้วย และอีกเมนูยอดนิยมก็คือ บิบิมบับ (ข้าวสไตล์เกาหลีอบบนหินร้อน) งบประมาณค่าอาหารที่รวมเครื่องดื่มแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 - 3,000 เยนต่อคน

ร้าน : Ramen Xone
ห้างสรรพสินค้า : HEP FIVE
ที่ตั้ง : ชั้น 7
เวลาทำการ : 11.00 - 22.30 น.

จากสถานีชินโอซาก้าไปยังย่านอุเมดะนั้น คุณสามารถมาที่สถานีอุเมดะด้วยรถไฟสาย JR หรือรถไฟใต้ดินสายมิโดซุจิได้ และถ้ามาจากสถานีนัมบะ ให้คุณขึ้นรถไฟใต้ดินสายมิโดซุจิหรือสายยตสึบาชิไปยังสถานีอุเมดะหรือสถานีนิชิอุเมดะ

*เวลาทำการอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ (COVID-19)

*รายละเอียดของบทความนี้เป็นข้อมูลในช่วงวันที่ที่ระบุไว้ จึงอาจมีกรณีที่รายละเอียดของสินค้าและบริการ ฯลฯ เปลี่ยนแปลงไปหรือร้านค้าปิดทำการ

คูปอง

คูปองร่วม

ลด 500 เยน

สามารถใช้ได้ที่ห้างสรรพสินค้า 6 แห่ง ดังนี้ :
GRAND FRONT OSAKA SHOPS & RESTAURANTS, HANKYU SANBAN GAI,
HEP FIVE, HERBIS PLAZA/PLAZA ENT, NU chayamachi / NU chayamachi PLUS and Diamor Osaka

ดูตัวอย่างแผนเที่ยวเพิ่มเติม